วัดมงคลบพิตร
สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ลงรักปิดทอง ในสมัยเสียกรุงได้ชำรุดเสียหาย ต่อมาในปี 2499 ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ รวมทั้งฉาบปูนเจดีย์ต่างๆเจดีย์สามองค์ ในเขตพระราชวังเก่า วัดพระศรีสรรเพชญ์
วัดพนัญเชิง
หลวงพ่อโต หรือพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง บางคนก็เรียกว่า วัดพระนางเอาเชิง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอยุธยา สันนิษฐานว่าพระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง มีมาก่อนตั้งอยุธยา
พระพุทธรูปทองคำ ปูน และนาก อยู่ภายในพระอุโบสถที่อยู่ด้านข้างวิหารหลวงพ่อโต องค์กลางปูนปั้น องค์ซ้าย เป็นทองคำ องค์ริมขวาเป็นนาค จะออกสีแดงๆ
ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก
ทางขึ้นชั้น 2
ทางลง
ศาลเทพเจ้าต่างๆ ด้านข้าง
ฝูงปลาหน้าวัด
วัดใหญ่ชัยมงคล
เป็นวัดที่มีอาณาเขตกว้างขวาง เดิมชื่อวัดป่าแก้ว หรือวัดเจ้าไท สร้างในสมัยตั้งกรุงศรีอยุธยา สมัยพระเจ้าอู่ทอง มีเจดีย์ชัยมงคลอนุสรณ์แห่งชัยชนะที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะพระมหาอุปราชา ของพม่า และมีพระตำหนักของพระนเรศวรอยู่ด้านหลังวัดด้วย
ศาลสมเด็จพระนเรศวร สร้างเสร็จในปี 2544 หันหน้าไปทิศตะวันออก
คูเมืองของวัด
เจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา นักท่องเที่ยวนิยมมามาก
ภายในเจดีย์มีการบรรจุคาถาชัยมงคลและพาหุงมหากาฯ
พระอุโบสถด้านหน้า เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล
หมู่บ้านญี่ปุ่น
เป็นชุมชนชาวญี่ปุ่น มีขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชา เริ่มจากชุมชนเล็กๆ ของพ่อค้าสำเภาญี่ปุ่น มี 3 กลุ่มด้วยกัน คือ พ่อค้า โรนินหรือนักรบ ที่มาเป็นทหารอาสา และชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริสต์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของฝั่งแม่น้ำ ทางใต้ของเกาะอยุธยา ฝั่งตะวันตกตรงข้ามกัน เป็นหมู่บ้านโปรตุเกส
ภายในมีรูปปั้นของออกญาเสนาภิมุข หรือยามาดะ นางามาซะ ขุนนางชาวญี่ปุ่น ในราชสำนักอยุธยา สมัยพระเจ้าทรงธรรม
มองไปด้านทิศใต้ มีสะพานสร้างใหม่
ตรงข้ามกันคือทิศตะวันตก เป็นหมู่บ้านโปรตุเกส ซึ่งท้าวทองกีบม้า ต้นตำรับขนมหวานพวกทองหยิบ ฝอยทอง ต่างๆ ก็เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-โปรตุเกส ได้สมรสกับคอนสแตนติน ฟอลคอน ชาวโปรตุเกส ซึ่งได้เป็นขุนนางสำคัญสมัยพระนารายณ์มหาราช
บัตรเข้าชมหมู่บ้าน ราคา 50 บาท